ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ยืนยันว่า ยังไม่ต้องกังวล เพราะผู้ป่วย 8 รายที่ติดเชื้อไวรัสนี้ ยังพบแค่ในพื้นที่เดียวเท่านั้น

กรณีรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสฮันตะ (Hantavirus) ในประเทศอินโดนีเซียที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ได้เพิ่มประเด็นความกังวลว่า ไวรัสร้ายแรงที่อาจถึงแก่ชีวิตนี้อาจกำลังแพร่กระจายไปโดยไม่ถูกตรวจพบ ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข ชี้ว่าการสัมผัสกับสัตว์ฟันแทะอย่างแพร่หลายและสภาพสุขาภิบาลที่ถูกสุขลักษณะเป็นความเสี่ยงหลักที่อาจนำไปสู่การพุ่งขึ้นของจำนวนผู้ป่วยเพิ่มเติม

กระทรวงสาธารณสุขของอินโดนีเซียได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา มีการยืนยันผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกที่มีอาการทางไต (HFRS) ซึ่งเป็นหนึ่งในโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสฮันตะ (Hantavirus) จำนวน 8 ราย ใน 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดยอกยาการ์ตา ชวาตะวันตก นูซาเต็งการาตะวันออก และสุลาเวสีเหนือ ข้อมูล ณ วันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา ผู้ป่วย HFRS ทุกรายได้รับการรักษาจนหายดีแล้ว

แม้ว่าขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องแจ้งเตือนประชาชนในวงกว้าง แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขยังคงแนะนำให้เสริมสร้างระบบเฝ้าระวังโรคให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น และเพิ่มความพยายามในการให้ความรู้แก่ประชาชน เนื่องจากไวรัสนี้อาจแพร่กระจายอย่างเงียบๆ ในพื้นที่เสี่ยงสูง

ไวรัสฮันตะคืออะไร?

ตามข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซีย โรคที่เกี่ยวข้องกับไวรัสฮันตะเป็น โรคติดต่อจากสัตว์สู่คน โดยระบุว่า “โรคนี้ติดต่อผ่านการสัมผัสโดยตรงกับสัตว์ฟันแทะ และจากการวิจัยที่มีอยู่ ยังไม่พบการแพร่เชื้อจากคนสู่คน”

โรค HFRS ซึ่งเป็นโรคที่ตรวจพบในอินโดนีเซีย จะมีผลกระทบต่อไตเป็นหลัก และมีรายงานการพบผู้ป่วยในภูมิภาคอื่น ๆ ของเอเชียและยุโรป ขณะที่โรคอีกชนิดที่พบได้บ่อยจากไวรัสฮันตะคือ ภาวะปอดอักเสบจากไวรัสฮันตะ (HPS) ซึ่งเป็นโรคทั่วไปอีกชนิดหนึ่งที่เกิดจากไวรัสนี้ ส่งผลกระทบต่อปอด และพบได้บ่อยในทวีปอเมริกา

โรค HPS เพิ่งเป็นข่าวพาดหัวเมื่อไม่นานมานี้ เมื่อมีรายงานว่า เบตซี อาราคาวา ภรรยาของอดีตนักแสดงฮอลลีวูดผู้ล่วงลับ ยีน แฮ็คแมน เสียชีวิตจากโรคนี้ หลังจากที่เธอถูกพบเสียชีวิตพร้อมกับสามีที่บ้านของทั้งคู่ในนิวเม็กซิโกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

เชื่อกันว่าบ้านพักของพวกเขามีหนูชุกชุมและมีมูลหนู เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบรังของสัตว์ฟันแทะในบริเวณที่พักอาศัย