แอดดิสอาบาบา, เอธิโอเปีย | 4 กันยายน 2568  ทางการรัฐบาลสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก (Democratic Republic of Congo, DRC) ประกาศยืนยันในวันนี้ว่าพบการระบาดของโรคไวรัสอีโบลาครั้งที่ 16 ในจังหวัดกาซายี (Kasai)

ผู้ป่วยอ้างอิงรายแรกเป็นหญิงตั้งครรภ์อายุ 34 ปี เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเมื่อเดือนที่ผ่านมา ด้วยอาการไข้สูงและอาเจียนซ้ำ ๆ จนถึงปัจจุบัน มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 15 ราย และพบผู้ป่วยสงสัยอีก 28 รายในเขตสุขภาพ 2 พื้นที่ในกาซายีได้แก่เขตบูลาเพอและมวีลา โดยผู้ป่วย 4 รายเป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุข การตรวจทางห้องปฏิบัติการยืนยันว่าเป็นเชื้ออีโบลา สายพันธุ์ซาอีร์ (Zaire) การสอบสวนเพื่อหาต้นตอของการติดเชื้อยังอยู่ระหว่างดำเนินการ

จังหวัดคาซายีเคยเกิดการระบาดของอีโบลาเมื่อปี 2008 ขณะที่จังหวัดอีเควเทอร์ (Equateur) เคยมีการระบาดในปี 2565

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแอฟริกา ได้ประสานงานกับกระทรวงสาธารณสุขของทางการรัฐบาลสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกทันที และให้การสนับสนุนอย่างใกล้ชิด หลังการประกาศการระบาด ดร.ฌอง กาซียา ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแอฟริกา  ได้เดินทางไปยังทางการรัฐบาลสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกและประชุมร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเพื่อหารือแนวทางจัดการการระบาด พร้อมส่งผู้เชี่ยวชาญไปเสริมมาตรการเฝ้าระวัง การติดตามผู้สัมผัส การจัดการข้อมูล การตรวจทางห้องปฏิบัติการ และมาตรการป้องกันการติดเชื้อในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ

“ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแอฟริกา ยืนหยัดอยู่เคียงข้างประชาชนของสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ผมได้ประชุมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเพื่อประสานการตอบโต้เหตุการณ์อย่างเร่งด่วน และเรากำลังดำเนินมาตรการเข้มข้นเพื่อควบคุมการระบาด ปกป้องชุมชนและสนับสนุนเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่อยู่แนวหน้า” ดร.ฌอง กาซียา กล่าว

โรคอีโบลาเป็นกลุ่มโรคไข้เลือดออกชนิดจากเชื้อไวรัสที่ติดต่อจากสัตว์สู่คน ทีติดถึงมนุษย์และสัตว์ในกลุ่มลิง เชื้อไวรัสสามารถแพร่จากสัตว์ป่าที่ติดเชื้อ เช่น ค้างคาวกินผลไม้ เม่น และลิงไปสู่คน การแพร่ระบาดระหว่างคนเกิดจากการสัมผัสโดยตรงกับเลือด ของเหลวในร่างกาย เนื้อเยื่อของผู้ติดเชื้อ หรือสิ่งของและพื้นผิวที่ปนเปื้อน อาการของโรคได้แก่ ไข้ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อย ปวดกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ อาเจียน ท้องร่วง และเลือดออกหรือฟกช้ำโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งโรคนี้มีอัตราตายเฉลี่ยประมาณ 50%

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแอฟริกา ยืนยันมุ่งมั่นในการสนับสนุนทางการรัฐบาลสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกต่อสู้กับการระบาดครั้งนี้ โดยจะเสริมสร้างระบบเฝ้าระวังแบบดิจิทัลเพื่อให้สามารถตรวจพบการระบาดได้ตั้งแต่ระยะต้น ติดตามผู้สัมผัสอย่างมีประสิทธิภาพ และจัดการผู้ป่วยได้อย่างเหมาะสม พร้อมทั้งปกป้องเจ้าหน้าที่สาธารณสุขด่านหน้าด้วยมาตรการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อที่เข้มงวด และการฉีดวัคซีนตามความจำเป็นของประเทศและความร่วมมือกับประเทศพันธมิตร