เจ้าหน้าที่สาธารณสุขชาวรวันดาอีกหนึ่งรายติดเชื้อไวรัสมาร์บวร์ก ในขณะที่จำนวนผู้ป่วยเด็กที่ติดเชื้อร่วมระหว่างโรคฝีดาษเอ็มพ็อกซ์และโรคหัดเพิ่มขึ้น

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขชาวรวันดาอีกหนึ่งรายติดเชื้อไวรัสมาร์บวร์ก ในขณะที่จำนวนผู้ป่วยเด็กที่ติดเชื้อร่วมระหว่างโรคฝีดาษเอ็มพ็อกซ์และโรคหัดเพิ่มขึ้น

มีรายงานพบผู้ป่วยไวรัสมาร์บวร์กคนที่ 63 ในรัวนดา ขณะที่กรณีเด็กที่ติดเชื้อร่วมระหว่างโรคฝีดาษเอ็มพ็อกซ์และโรคหัดเพิ่มขึ้นในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ตามข้อมูลจากการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งแอฟริกาเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

หลังจากผ่านไป 10 วันโดยไม่มีรายงานผู้ป่วยรายใหม่ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขผู้ดูแลผู้ป่วยมาร์บวร์กมีผลตรวจไวรัสเป็นบวกในคืนวันพุธ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขรวันดา ดร. ซาบิน เอ็นซานซิมานา ระบุในการแถลงข่าว

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวเพิ่งได้รับวัคซีนเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาและมีอาการที่ “ไม่ปกติ” แต่ “อยู่ในเกณฑ์ดี” ดร. เอ็นซานซิมานา กล่าวเสริมว่า “สิ่งที่ดีคือ ผู้ป่วยรายนี้อยู่ในศูนย์การรักษาและไม่มีการสัมผัสกับบุคคลภายนอก”

นอกจากนี้ เอ็นซานซิมานากล่าวว่า ยังมีการระบุแหล่งที่มาของการระบาดของมาร์บวร์กว่ามาจากค้างคาวกินผลไม้ในถ้ำที่ผู้ป่วยรายแรกเข้าไปทำเหมือง

เมื่อมีการยืนยันแหล่งต้นตอนี้แล้ว กิจกรรมของคนทุกกิจกรรมในถ้ำได้ถูกระงับทันที และรัฐบาลกำลังติดตามผู้ที่เคยทำงานในถ้ำเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีผู้ใดติดเชื้อ

การถอดรหัสพันธุกรรมของไวรัสยืนยันว่าเชื้อไวรัสนั้นมีความใกล้เคียงกับไวรัสติดต่อระหว่างสัตว์และคนที่พบในค้างคาวและกับไวรัสมาร์บวร์กของผู้ป่วยที่เดินทางเข้ามาในประเทศ

เอ็นซานซิมานา กล่าวว่า สิ่งนี้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของแนวทางสุขภาพหนึ่งเดียวที่ครอบคลุมทั้งสุขภาพของมนุษย์ สัตว์ และสิ่งแวดล้อม

การตรวจโรคฝีดาษเอ็มพ็อกซ์มีความก้าวหน้าอย่างช้า ๆ
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานผู้ป่วยฝีดาษเอ็มพ็อกซ์รายใหม่จำนวน 2,729 ราย ซึ่งกว่าร้อยละ 90 พบในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกและบุรุนดี ขณะที่ไลบีเรีย เคนยา และยูกันดาก็มีรายงานผู้ป่วยใหม่เช่นกัน ตามข้อมูลจาก ดร. เอ็นกาชี เอ็นกองโก ผู้ดูแลด้านฝีดาษเอ็มพ็อกซ์ของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งแอฟริกา