กระทรวงทรัพยากร อาหาร และกิจการชนบทยกระดับความเสี่ยงของไข้หวัดนกในสหราชอาณาจักร หลังตรวจพบสายพันธุ์ H5N5 ในนกธรรมชาติ

กระทรวงทรัพยากร อาหาร และกิจการชนบทยกระดับความเสี่ยงของไข้หวัดนกในสหราชอาณาจักร หลังตรวจพบสายพันธุ์ H5N5 ในนกธรรมชาติ

กระทรวงสิ่งแวดล้อม อาหาร และกิจการชนบท (Department for Environment, Food & Rural Affairs, Defra) ยกระดับความเสี่ยงของไข้หวัดนกในนกป่าในสหราชอาณาจักรจากระดับต่ำเป็นระดับปานกลาง หลังตรวจพบไวรัสสายพันธุ์ H5N5 ซึ่งมีความรุนแรงสูง ฤดูกาลนี้เป็นครั้งแรกที่มีรายงานการตายของนกป่าจำนวนมากจากเชื้อไวรัสนี้ ย้ำเตือนให้เกษตรกรเพิ่มความระแวดระวังในช่วงฤดูหนาวที่ใกล้เข้ามาถึง แม้ว่าความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นแต่ความเสี่ยงในสัตว์ปีกยังคงอยู่ในระดับที่ ‘ต่ำ’ ในกรณีที่ไม่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยทางชีวภาพที่เพียงพอ และ ‘ต่ำมาก’ ในกรณีที่มีมาตรการป้องกันเข้มงวด

ในช่วงที่มีการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ป่วย H5N5 นี้ การตัดสินใจของ Defra สะท้อนถึงลักษณะที่เปลี่ยนแปลงของสายพันธุ์ไข้หวัดนกที่ส่งผลกระทบในสหราชอาณาจักร โดยปกติไวรัสที่พบเป็นสายพันธุ์ H5N1 แต่การเพิ่มขึ้นของการติดเชื้อในปีนี้ได้กระตุ้นให้มีการเน้นย้ำถึงการปฏิบัติด้านความปลอดภัยทางชีวภาพเพื่อปกป้องทั้งประชากรนกป่าและนกเลี้ยง รัฐบาลยังคงรักษาสถานภาพปลอดโรคไข้หวัดนกชนิดก่อโรครุนแรงสูงซึ่งได้ประกาศไว้ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2567 จึงกำหนดมาตรการใหม่ให้ผู้เลี้ยงสัตว์ปีกทุกคนในอังกฤษและเวลส์ต้องลงทะเบียนกับหน่วยงาน เพื่อเสริมสร้างมาตรการความปลอดภัยทางชีวภาพทั่วประเทศ สำหรับในสกอตแลนด์ มีกำหนดการลงทะเบียนในเดือนธันวาคม

การยกระดับการเฝ้าระวังครั้งนี้เป็นการย้ำเตือนถึงความสำคัญของการปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยทางชีวภาพที่เข้มงวดเพื่อปกป้องภาคอุตสาหกรรมสัตว์ปีกของสหราชอาณาจักร แม้ว่าปัจจุบันจะยังไม่มีการระบาดในสัตว์ปีกที่เลี้ยงในกรง แต่ยังคงแนะนำให้เกษตรกรรักษาความระมัดระวังและจัดการสุขภาพของฝูงสัตว์อย่างรอบคอบ มาตรการเชิงรุกของ Defra มีเป้าหมายเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมไม่ให้ประสบปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และรับประกันความมั่นคงในการดำเนินงานท่ามกลางความท้าทายที่เพิ่มขึ้นจากไข้หวัดนก