ผลการตรวจสอบในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกยืนยันว่ากลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการป่วยไม่ทราบสาเหตุ ไม่ใช่โรคอีโบลาหรือมาร์บวร์ก

ผลการตรวจสอบในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกยืนยันว่ากลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการป่วยไม่ทราบสาเหตุ ไม่ใช่โรคอีโบลาหรือมาร์บวร์ก

ตามที่องค์การอนามัยโลก (World Health Organization, WHO) สำนักงานภูมิภาคแอฟริกา ได้รายงานในรายงานการระบาดและภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพประจำสัปดาห์ล่าสุดว่า การตรวจสอบโรคในผู้ป่วยที่มีอาการป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ 2 กลุ่มก้อนในจังหวัดอีเควเตอร์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ได้รับการยืนยันว่าไม่พบเชื้อไวรัสอีโบลาหรือมาร์เบิร์ก และขณะนี้กำลังดำเนินการตรวจสอบพร้อมสอบสวนเพิ่มเติม

กลุ่มก้อนของผู้ป่วยกลุ่มใหม่ล่าสุดอยู่ในหมู่บ้านบรอมาเต วิลเลชา (Bromate Villega) ซึ่งอยู่ในเขตสุขภาพบาซังกูซู (Basankusu) ได้รับการรายงานต่อเจ้าหน้าที่จังหวัดเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ โดยมีรายงานผู้ป่วย จำนวน 32 ราย รวมถึงผู้เสียชีวิต จำนวน 20 รายในชุมชน เมื่อถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ มีรายงานผู้ป่วยสงสัยทั้งหมด จำนวน 419 ราย และผู้เสียชีวิต จำนวน 45 ราย ครึ่งหนึ่งของผู้เสียชีวิตเกิดขึ้นภายใน 2 วันหลังเริ่มแสดงอาการ อาการที่พบ ได้แก่ ไข้ ปวดศีรษะ ปวดตามร่างกาย คอแข็ง ไอ และอาการในระบบทางเดินอาหาร

ตัวอย่างจากผู้ป่วย จำนวน 13 รายถูกส่งไปตรวจสอบที่สถาบันวิจัยชีวเวชศาสตร์แห่งชาติ (National Institute of Biomedical Research, INRB) ในกินชาซา แต่ทั้งหมดไม่พบไวรัสอีโบลาหรือมาร์บวร์ก “กำลังมีการตรวจสอบตามแนวทางการวินิจฉัยแยกโรค ได้แก่ ไข้มาลาเรีย ไข้เลือดออกจากไวรัส อาหารหรือน้ำที่ทำให้เกิดอาหารเป็นพิษ ไข้ไทฟอยด์ และเยื่อหุ้มสมองอักเสบ” องค์การอนามัยโลกระบุไว้ ทั้งไวรัสอีโบลาและมาร์บวร์กทำให้เกิดไข้เลือดออกได้


เด็กกลุ่มแรกมีการสัมผัสซากค้างคาว

ผู้ป่วยเด็กในกลุ่มก้อนแรกที่เกิดการระบาดไม่ทราบสาเหตุถูกส่งตัวมาเมื่อวันที่ 21 มกราคม โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่หมู่บ้านโบโลโก (Bologo) ในเขตสุขภาพโบลอมบา (Bolomba) มีรายงานการเสียชีวิตของเด็ก 3 คนในชุมชนในช่วงต้นเดือน โดยมีรายงานว่าพวกเขาได้กินซากค้างคาวและแสดงอาการมีเลือดออกก่อนเสียชีวิต มีรายงานผู้ป่วยที่คล้ายกันในเด็กอีกโดยมีผู้ป่วย 12 ราย รวมถึงผู้เสียชีวิต 8 รายในหมู่บ้านโบโลโก และผู้ป่วย 2 ราย รวมถึงผู้เสียชีวิต 1 รายในหมู่บ้านดันดา (Danda) ที่อยู่ใกล้เคียง การตรวจสอบในห้องปฏิบัติการจังหวัดและสถาบันวิจัยชีวเวชศาสตร์แห่งชาติ ไม่พบไวรัสอีโบลาหรือมาร์บวร์ก

“ปัจจัยแวดล้อมที่แน่นอนของการสัมผัสโรคยังไม่ชัดเจนในทั้งสองเหตุการณ์ และไม่มีความเชื่อมโยงทางระบาดวิทยาระหว่างผู้ป่วยในทั้งสองเขตสุขภาพที่ได้รับผลกระทบ” องค์การอนามัยโลกระบุ

ทั้งนี้ จังหวัดอีเควเตอร์อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกและเคยได้รับผลกระทบจากการระบาดของอีโบลาในอดีต